เทรนด์ที่มาแรงมาตลอดนั่นก็คือการดูแลสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิว ซึ่งก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลายวิธี ทั้งการรับประทานวิตามินและอาหารเสริมต่าง ๆ เพื่อบำรุง เป็นวิธีที่นิยมกันมานานแล้ว แต่การทานวิตามินนั้นร่างกายจะสามารถดูดซึมได้ในปริมาณที่เล็กน้อย ด้วยวิทยาการสมัยใหม่จึงได้มีการคิดค้นหนทางที่จะทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่วนผสมก็คือวิตามินแบบที่เราทานเข้าไป แต่เปลี่ยนจากการทานมาให้ทางกระแสเลือด นั่นก็หมายความว่าร่างกายจะสามารถดูดซึมประโยชน์จากวิตามินนั้นได้มากกว่าในรูปแบบของการทาน หรือที่เรามักจะรู้จักกันในชื่อเรียกว่า ‘วิตามิน IV Drip’ นั่นเอง
การให้วิตามินผิว หรือ Vitamin IV Drip เป็นการให้วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ แก่ผิว ผ่านทางสายน้ำเกลือเข้าสู่เส้นเลือดดำของเราโดยตรง ซึ่งการให้วิตามินแก่ร่างกายโดยวิธีนี้ ร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามินได้ทั้งหมด เกือบ 100% ต่างจากการทานวิตามินในรูปแบบเดิม ที่ร่างกายสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและนำไปใช้ได้จริงเพียง 20-40% เท่านั้น ขึ้นอยู่กับวิตามินที่รับประทาน และการรับประทานสารอาหารอื่นควบคู่กันเพื่อช่วยดูดซึมวิตามิน
การทำ Vitamin IV Drip จะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนังให้ผิวแข็งแรง กระชับ เต่งตึง ดูอ่อนกว่าวัย อีกทั้งยังช่วยปรับสภาพผิวให้สว่างกระจ่างใส ช่วยฟื้นฟูให้ผิวสวยสุขภาพดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน หรือคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ไม่อยากทาครีมบำรุง หรือถ้าใครดูแลผิวเป็นอย่างดีแล้ว แต่ปัญหายังไม่หายไป เช่น ผิวหน้าหมองคล้ำไม่สดใสหรือผิวอ่อนแอแพ้ง่าย การรับ Vitamin IV Drip ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก
- ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้มากถึง 100% มากกว่าการบำรุงอื่น ๆ เช่นการทานวิตามิน หรือทาครีมบำรุงผิว
- สามารถเข้าสู่ระดับเซลล์ผิว และสามารถนำไปใช้งานได้ทันที
- เป็นการบำรุงจากภายใน ช่วยให้ผิวแข็งแรง ฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
- บำรุงผิวและร่างกายได้อย่างครอบคลุม ทั้งการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ป้องกันหวัด ภูมิแพ้ ทั้งยังช่วยฟื้นบำรุงร่างกายที่เหนื่อยล้าอ่อนเพลียให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า
- สามารถขับออกได้เองตามธรรมชาติของระบบร่างกาย มีความปลอดภัยสูง
ข้อควรระวังก่อนทำ Vitamin IV Drip
โดยปกติแล้วการฉีดวิตามินผิวไม่ได้มีอันตราย เนื่องจากตัวยาเป็นสารสกัดธรรมชาติ และส่วนประกอบหลายตัวเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับร่างกายอยู่แล้ว แต่การฉีด Vitamin IV Drip ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ เหมือนกับการแพ้ยาหรือแพ้อาหารได้ เช่น อาการแพ้ทางผิว ผื่นขึ้น แสบคัน ความดันต่ำ หายใจไม่ออก หรือเกิดภาวะช็อค การให้วิตามินจึงควรหลีกเลี่ยงในผู้หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคนิ่ว โรคตับ โรคไต คนไข้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD Deficiency) และเพื่อป้องกันความเสี่ยงติดเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นคนไข้จึงควรแจ้งปัญหาสุขภาพของตนเองกับแพทย์เพื่อทำการปรึกษาก่อนทำ และควรทำการฉีดกับคลินิกที่น่าเชื่อถือ และทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ Vitamin IV Drip
ก่อนรับ Vitamin IV Drip ควรเข้ารับการปรึกษาคุณหมอ บอกความต้องการ และปัญหาสุขภาพที่กังวัล ให้ข้อมูลสุขภาพโดยรวม ประวัติการเจ็บป่วย แพ้ยา เพื่อที่แพทย์จะได้ให้คำแนะนำในการเลือกสูตรที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยังต้องทำการตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร อุณหภูมิร่างกายน้ำหนัก และส่วนสูง เพื่อประเมินสภาวะร่างกายว่าสามารถทำ Vitamin IV Drip ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ รวมถึงยังจำเป็นต่อการคำนวณปริมาณ ความเข้มข้น และอัตราเร็วในการให้สารน้ำเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียง
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้นทางของการรับบริการที่ควรจะเลือกสถาบันเสริมความงามที่ไว้ใจได้ มีการยืนยันผลการบริการจากผู้ใช้งานจริง และควรจะเข้ารับบริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะเป็นตัวช่วยยืนยันความปลอดภัยได้มากขึ้นอีกทางหนึ่ง
ให้ของขวัญล้ำค่าแก่ผิวด้วยโปรแกรม Vitamin IV Drip และบริการเพื่อความงามอีกมากมาย แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดที่ DOCTOR MEK CLINIC สาขากรุงเทพ ที่โครงการ STADIUM ONE ถนนพระราม 1 และ DOCTOR MEK CLINIC สาขาสุราษฎร์ธานี ติดต่อ. 064-946-1988 และ 077-272-007